การเดินสายไฟภายในบ้าน
การเดินสายไฟภายในบ้านที่นิยมเดินจะมี 2 วิธีได้แก่
1. การเดินสายไฟบนผนัง (แบบเดินลอย)
2. การเดินสายไฟแบบฝังในผนัง
การเดินสายไฟแบบเดินลอย
เป็นการเดินสายไฟโดยยึดสายไฟให้ติดกับผนังหรือเสาเชื่อมต่อไปยังเต้ารับและเครื่องใช้ไฟฟ้า
ข้อดี : ของการเดินสายแบบนี้คือมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า และสามารถตรวจสอบหรือซ่อมแซมได้ง่ายเพราะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ข้อเสีย : คือหากเดินสายไฟได้ไม่เรียบร้อยจะทำให้ดูไม่สวยงาม โดยเฉพาะหากมีเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก อาจจะทำให้สายไฟดูรกเต็มผนังบ้านเลยก็ได้
ในปัจจุบันการเดินสายไฟแบบเดินลอยก็จะใช้การร้อยสายไฟผ่านท่อพีวีซีหรือท่อเหล็ก เพื่อทำให้สายไฟดูเรียบร้อยและสวยงามมากขึ้น
การเดินสายไฟแบบฝังผนัง
เป็นการเดินสายไฟโดยร้อยสายผ่านท่อสายไฟโดยฝังอยู่ภายในผนังของบ้าน
ข้อดี : ของการเดินสายแบบนี้คือมีความเรียบร้อย ไม่ดูเกะกะ ตกแต่งห้องได้สวยงาม ปลอดภัยจากกระแสไฟฟ้ารั่ว
ข้อเสีย : คือหากเกิดปัญหาต้องซ่อม การตรวจสายไฟจะทำได้ยาก หรือจำเป็นต้องทุบเปลือกผนังเพื่อตรวจสอบระบบ
ซึ่งหากสายไฟเกิดชำรุดอยู่ในจุดที่มองไม่เห็น อาจจะทำให้เกิดอันตรายจากไฟรั่วตามมา
ช่างไฟฟ้าบางคนมักง่ายด้วยการซ่อนสายไฟฟ้าในผนังโดยไม่ร้อยสายไฟผ่านท่อ จะทำให้สายไฟชำรุดได้ง่ายขึ้น เนื่องจากความชื้นในผนังบ้าน
ในปัจจุบันการเดินสายไฟแบบฝังในผนังจะเป็นที่นิยมมากกว่า เนื่องจากทำให้เกิดความสวยงาม สะอาดตาภายในบ้าน แต่การเดินสายบนผนังก็ยังคงมีให้เห็นอยู่ ซึ่งหากมีการเดินสายที่เรียบร้อยโดยช่างที่เอาใจใส่ก็จะทำให้บ้านของคุณดูดีขึ้น ทางเราจึงได้นำบทความข้างต้นมาให้ผู้อ่านได้ทราบถึงข้อดี และ ข้อเสีย ของการเดินสายไฟทั้ง 2 แบบ เพื่อให้ผู้อ่านไปพิจารณาเลือกว่าควรจะเดินสายไฟแบบไหนดี
บทความหน้า จะมาพูดถึง ” วิธีการตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน ” ให้ผู้อ่านได้ศึกษากันนะคะ.
__________________________________________________________________________________________________________________________________________